SVR เข้าเทรด mai วันแรก 3.26 บาท พุ่ง 48.18% จาก IPO 2.20 บาท พร้อมก้าวสู่ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy รายแรก
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม เผยว่า สำหรับราคาหุ้น SVR ที่เปิดทำการซื้อขายวันแรก เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จนส่งผลให้ราคาหุ้นสามารถยืนเหนือที่ระดับ 3.26 บาท จากราคาIPO 2.20 บาท ในตลาดหลักทรัพย์ mai หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯวางแผนจัดหาที่ดินที่มีศัยกภาพในการพัฒนาโครงการใหม่ๆให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพร้อมการสู่การเติบโตในระดับ High Growth - High Return ได้อย่างมั่นคงยั่งยืน สู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy เป็นรายแรก
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี2566 บริษัทฯมีแผนขยายการพัฒนาโครงการเข้ามาในพื้นที่ใกล้โซน CBD ของกรุงเทพมากขึ้น จากเดิมที่พัฒนาโครงการในโซนพื้นที่ชาญเมืองเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า อีกทั้งต้องการขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยทุกโครงการที่จะพัฒนาใหม่ๆในอนาคต จะเป็นการรองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้าอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 2,996 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 1 โครงการ รวมมูลค่า 686 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเริ่มโอนและรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2566
โดยบริษัทฯมีจุดแข็ง คือ 1.พัฒนาโครงการที่หมุนรอบเร็ว หรือ Quick turnover : วิเคราะห์ทำเลตั้งแต่การเลือกซื้อที่ดิน พร้อมวางแผนในการซื้อที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ ทำให้สามารถกระจายการพัฒนาโครงการได้ ในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการและไม่เกิดอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้โครงการของ “SVR” สามารถขายได้หมดภายใน 1 ถึง 3 ปี ทำให้บริษัทฯสามารถหมุนรอบในการทำการขายได้เร็ว
2. ก่อสร้างเร็ว - ขายเร็ว - ส่งมอบเร็ว : การก่อสร้างด้วยระบบ Precast (พรีคาสท์) เพื่อลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ บริษัทฯมีอำนาจในการต่อรองราคาวัสดุก่อสร้าง จาก Suppliers (ซัพพลายเออร์) ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตราการทำกำไรที่ดี
3.“ความคุ้มค่า”แบบPremium Economy : บริษัทฯสร้างบ้านแบบ Premium Economy ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าของบ้านในระดับพรีเมียม บนพื้นฐานของราคาบ้านที่ประหยัดในระดับราคา 1-7 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) และตอบโจทย์ทุก Lifestyle ทุก Generation ได้อย่างลงตัว
SVR มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 510 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 380 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 286 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,122 ล้านบาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทมีแผนนำไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นและส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท
#SIVAROM #SVR #SET #ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวหุ้น #IPO #StockReview